มะเร็งใกล้ตัวกว่าที่คิด ![]()

First Time Chemotheraphy ![]()
![]()
ประสบการณ์พาลูกจ้างมารักษามะเร็งเต้านม ด้วยคีโมเข็มแรก เลยอยากมาแชร์เก็บไว้ เป็นวิทยาทานเผื่อคนที่อยากรู้
เคสนี้ใช้สิทธิ์บัตรทอง และต้องโอนสิทธิ์มาจากที่อื่น ตอนแรกมีอาการแค่เจ็บหน้าอก ที่อื่นเลยยังไม่ชงเรื่อง ให้ต้องเข้าไปตรวจหรือเริ่มการรักษา
ลูกจ้างอยู่ด้วยกันมา 20+ ปีแล้ว เหมือนคนในครอบครัว ขอบคุณอี๊ปุ๊ที่ช่วยเหลือในทุกๆเรื่องตั้งแต่ประสานงาน หาที่รักษา/รับส่ง/ซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย
ย้อนกลับไปเมื่อวาน หลังจากตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และเจอหมอเสร็จ สรุปว่าเป็นมะเร็งชนิดที่หาเจอได้น้อยมาก แต่สามารถรักษาเหมือนคนเป็นมะเร็งแบบปกติ เลยจ่ายยา ขึ้นไปลงทะเบียนนัดทำคีโม และวันนี้เริ่มคีโมเลยทันที
หมอเล่าว่ามีคนไข้หลายคนอยากผ่าตัดออกเลยทันทีจนหมอเริ่มหงุดหงิด เพราะไม่ทำตามที่เค้าแนะนำ โดยหมอแนะนำให้คีโมเพื่อให้ก้อนเนื้อยุบตัวลงมาก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากันตามสเต็ป ถ้าข้ามขั้นตอนไป อาจมีผลต่อผลลัพธ์ในการรักษา ใดๆคือให้รักษาตามขั้นตอนของหมอดีสุดครับ
วันนี้ ออกจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ เผื่อเวลาไปถึงหน้าห้องก่อน 8 โมง หมอบอกนัดเร็วเพราะเป็นคนไข้ใหม่ ต้อง Brief การเตรียมพร้อมก่อน มีทำแบบสอบถามว่า การใช้ชีวิตช่วงการรักษา ต้องทำอะไรบ้าง สิ่งที่ห้ามทำ/ห้ามกินต่างๆ กว่าจะได้เริ่มทำคีโมก็ 11 โมงกว่าๆ ออกจากตรงนั้นบ่ายโมงแล้ว
ต่อไปก็จะนัดตรงเวลา ไม่ต้องมาเร็ว คิวส่วนใหญ่จะไม่ตรงวันที่มาหาหมอ เพราะไม่ทัน 13:00 น. ก็จะนัดวันถัดไป 1-2 วัน แล้วแต่คิวว่าง แต่จะเป็นช่วงราวๆ 11:00-12:00 น.
เคสนี้ให้คีโมราว 1 ชม. แต่บางเคส 3-4 ชม.ก็มี คิวต่อวันก็จะกระจายไป ไม่ให้คนเยอะเกิน
ผลข้างเคียงจากการให้คีโมวันแรก โดยรวมยัง ไม่มีอาการมากนัก แค่มึนๆเวียนหัว แต่บางคนไม่มีเลยก็มี รอดูอาการต่อ ถ้าเกิดมีคลื่นไส้อาเจียน มียาแก้คลื่นไส้ เม็ดละ 3,000+ กินแล้วหายคลื่นไส้เลยแพงเพราะเป็นยานอกบัญชี ค่อยว่ากันตอนนั้น ![]()
คราวหน้า หมอนพดลนัดอีก 2 อาทิตย์เพื่อเจาะเลือดก่อน แต่คีโมเข็ม 2 น่าจะต้องครบ 3 อาทิตย์ก่อน
สรุปขั้นตอน
ขึ้นไปชั้น 7 คลินิคเคมีบำบัด => ยื่นสิทธิ์หน้าห้อง => ยื่นใบนัดที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า + วัดอุณหภูมิ (Hand Wave) + รับบัตรคิว => เข้าด้านใน วัดความดัน ชั่งน้ำหนัก แนบพร้อมบัตรคิว รอเรียก (Scan บัตรคิว ดูรายละเอียดจำนวนคิวในแอพ Flow ได้เลย)
ป.ล. แอพ Flow ของศิริราชดีมาก ค่อนข้างแม่นยำกะเวลาไปหาอะไรทานรอคิวได้ แต่หน้างานได้คิวไหมอีกเรื่องนึง ![]()
ส่วนตัวประทับใจบุคลากรที่ทำงานในนั้นมากๆเลยครับ เหน็ดเหนื่อยกับภาระหน้าที่ไม่พอ ยังต้องมาเจอกับผู้ป่วยสารพัด ถามคำถาม อยากได้คิวเร็วๆ แต่พวกเค้าก็ช่วยเหลืออย่างใจเย็น ทำงานด้วยใจจริงๆ
เข้าใจฟีลคนมาโรงพยาบาลรัฐ ก็ช่วงนี้เลย คนมหาศาล โดยเฉพาะวันจันทร์ที่คนไข้มะเร็ง มาหาหมอที่หน่วยตรวจโรคอายุรศาสตร์ เหมือนมา Walk Rally เสร็จจากตรงนี้ก็ไปตรงนั้นต่อ คนก็แน่นมากๆๆ (ถ้าใครเคยไปศิริราชน่าจะพอนึกออก) ทั้งคนป่วย ญาติคนป่วย นั่งรถเข็น มหาศาลมาก ที่นั่งไม่ต้องพูดถึง ต้องยืนรอเป็นชั่วโมงๆ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงวางแผนซื้อประกันให้เค้าสักเล่มเพื่อการรักษาที่สะดวก รวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะซันเพิ่งเข้ามาทำงานนี้ได้ไม่นาน ต้องดูแลกันต่อ รักษาผ่านช่องทางนี้ อดทนสู้ต่อไป
สำหรับใครที่ยังไม่ได้วางแผนให้กับตัวเองหรือคนใกล้ตัว อาจจะลองพิจารณาดูนะครับ
การเจ็บป่วยจากโรคร้ายแรงเพียงครั้งเดียว อาจนำพาเงินเก็บทั้งชีวิตไปด้วยเพื่อเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุด รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด เพื่อให้มีชีวิตอยู่ยืนยาวที่สุด
เห็นแววตาคนที่อยู่โรงพยาบาลแล้วนึกขึ้นมาได้ประโยคนึง “คนเรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยความหวัง” คงไม่เกินจริงแต่อย่างใด
บางคนที่เดินทางมาไกล หวังแค่ได้คิวตรวจรักษา บางคนหวังว่าจะรักษาโรคนี้หายในสักวันหนึ่ง บางคนหวังว่าจะมีเวลาอยู่กับคนในครอบครัวมากกว่านี้ ไม่มีใครรู้ตอนจบของบทละครที่ชื่อว่า “ชีวิต” ไม่มีใครรู้อนาคตของเรา
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือระหว่างทาง เรากำหนดได้เองว่าอยากมีชีวิตแบบไหน
ใช้ชีวิตให้เต็มที่ และดีที่สุดกับตัวเองและคนรอบข้าง อยู่ให้คนรัก จากไปให้คนคิดถึง หากเจอวิกฤตก็ขอให้ผ่านไปได้อย่างเจ็บตัวน้อยที่สุด พอมาทำงานในอุตสาหกรรมนี้ ยิ่งตอกย้ำในคุณค่าของประกันและการวางแผนการเงินแบบสุดๆ
ไม่อยากให้ชีวิตต้องลำบากว้าวุ่น ต้องวางแผนปิดความเสี่ยงตั้งแต่วันนี้ ![]()


